I Want (to be) a Millionaire_WonTeuk - นิยาย I Want (to be) a Millionaire_WonTeuk : Dek-D.com - Writer
×

    I Want (to be) a Millionaire_WonTeuk

    เรื่องราวของหนุ่มหน้าสวย...ที่หวังจะรวยทางลัด!!! ฝากเนื้อฝากตัวด้วยจ้า

    ผู้เข้าชมรวม

    17,090

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    33

    ผู้เข้าชมรวม


    17.09K

    ความคิดเห็น


    671

    คนติดตาม


    58
    จำนวนตอน :  27 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  9 ต.ค. 55 / 10:32 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Intro.
    แฮ่ก...แฮ่ก..แฮ่ก...
    ทันมั้ย...ทันมั้ย..........ทันม้ายยยยยย......
    ปี๊บ... ตื๊ด....
    07.58 
    รอดแล้ว!!! ไม่สาย ไม่สาย...เย่ เยส!! ผมถอนใจโล่งอก กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ในที่สุดก็ทดลองงานครบ 6 เดือน ไม่มีลา สาย ป่วย ขาด เลยซักครั้ง ลงแบบนี้ได้งานชัวร์ๆ... ^__^
    จองซู คุณนายท่านประธานรอพบอยู่ที่ห้องทำงานแน่ะ พี่ชินเอ พนักงานประจำที่คอยเป็นพี่เลี้ยงให้ผมระหว่างทดลองงาน เดินมากระซิบด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ... พี่ครับ...อย่าทำแบบนี้สิ...ผมใจฝ่อไปหมดแล้วนะ
    พี่พอจะรู้มั้ยครับว่ามีเรื่องอะไร ผมแอบเลียบๆเคียงๆถามหยั่งเชิง
    พี่ก็ยังไม่รู้รายละเอียดอะไรหรอกนะจองซู ... แต่สีหน้าคุณนายดูแปลกๆยังไงบอกไม่ถูก ดู..เครียดๆน่ะ อื้ม...เครียดๆ พี่ชินเอกระซิบตอบแล้วรุนหลังผมให้เดินไปยังห้องเป้าหมาย
    ..เครียดเหรอ... ไม่เอานะ.... อย่าให้เป็นอย่างที่ผมกลัวเลย.....
    ผมรีบหันตัวกลับอย่างเร็ว เมื่อสิ่งที่ได้ฟังพาให้สมองคิดไปถึงเรื่องในอดีตที่ทำงานเก่า ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นกับผมอีก .... ชีวิตผมคงต้องจบกันแล้วทีนี้
    คุณ พัค จองซู ... มาถึงแล้วก็เข้ามาสิ เสียงเย็นเยียบของคุณนายท่านประธานแว่วมาจากด้านหลัง ...ไม่อยากหันกลับไปมองเลย....
    พี่ชินเอรีบจับไหล่ผมให้หันไปในทิศทางที่ถูกต้อง แล้วตบไหล่เป็นเชิงให้กำลังใจก่อนจะวิ่งหนีหายไป ใบหน้าเครียดโทรมของคุณนายท่านประธานที่อยู่ห่างไม่เกิน 2 คืบครึ่ง ทำเอาหายใจไม่ทั่วท้องเลยล่ะครับ.....
    เชิญนั่งสิ คุณนายนั่งลงตรงโต๊ะทำงานตัวโตหรูหราภายในห้องทำงานนั้น ความจริงปกติแล้วห้องนี้จะเป็นห้องทำงานของท่านประธาน แต่เพิ่งมาเปลี่ยนเป็นห้องของคุณนายท่านประธานเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ..... ผมก็ไม่รู้เหตุผลหรอกว่าทำไม ...แต่ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับผมอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ....
    สาเหตุที่ฉันเรียกคุณมาคุยในวันนี้ คือสาเหตุเดียวกับที่ฉันแลกห้องทำงานกับท่านประธาน
    ...เอ๋??...หรือจะเกี่ยว.....
    ผมเริ่มรู้สึกปั่นป่วนแล้วล่ะครับ ผมเนี่ยนะไปเกี่ยวกับการย้ายห้องทำงานของท่านประธานกับคุณนาย....ยังไง...ตรงไหนกัน
    ฉันจะไม่อ้อมค้อมล่ะนะ คุณพัค จองซู....ฉันขอเชิญคุณออก
    .....เชิญออก.... O__o*
    เดี๋ยวก่อนสิครับ...เชิญออก.... หมายถึง..ไล่ออกงั้นเหรอครับ.... ผมใจเสียซะแล้วล่ะครับ ก็คุณนายไม่มีท่าทีว่าจะพูดเล่นเลยสักนิด .... แถมที่ร้ายกว่านั้น...ดูเหมือนคุณนายกำลังจะร้องไห้ซะอีกแน่ะ
    ฉัน....ขอโทษนะ...คุณพัค จองซู.... ฉันรู้ว่าทั้งหมดมันไม่ใช่ความผิดของคุณ.... แต่ว่า...ฉันทนไม่ได้จริงๆ ...ฮึก.ฮึก... ฉันทนไม่ไหวแล้ว.. เอาแล้วไง...... พูดได้เท่านั้นคุณนายก็ตีบทแตก น้ำตาไหลนองเต็มสองแก้ม ผมดึงกระดาษทิชชู่ส่งให้แต่ก็จนด้วยคำพูดที่จะปลอบใจ ...ก็ผมยังไม่รู้เลยนี่นาว่าคุณนายมาปี่แตกใส่ผมเรื่องอะไร...จะให้ปลอบแบบไหนได้ล่ะ ....
    ใจเย็นๆ...นะครับคุณนาย.... ผมว่า..ทุกอย่างแก้ไขได้ เอาแบบกลางๆไปก่อนก็แล้วกันนะ
    ฮึก...ฮึก .... ใช่...ทุกอย่างแก้ไขได้...เพียงแค่เธอออกไปจากที่นี่...ทุกอย่างก็จะดีขึ้น.โฮฮฮฮฮ....
    ...กรรม!!!!..... TT^TT
    คุ...คุณนายครับ....ผม..
    ฉันทนไม่ไหวแล้ว... จะให้ฉันทนเห็นสามีตัวเองนั่งเพ้อพกถึงเด็กผู้ชายหน้าใสกิ๊งไปตลอดชีวิตน่ะ ฉันทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
    เห!!!!
    คุณนายท่านประธานโยนซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะ แล้วกลับไปนั่งซับน้ำตาร้องไห้ร้องห่มอีกระลอก ผมค่อยๆเอื้อมมือออกไปหยิบซองเอกสารนั่นมาเปิดดู และทันทีที่ผมเห็นของในซองนั่นก็รู้สึกเหมือนโดนฟ้าฝ่ากลางกระหม่อมสัก 7 ทีซ้อน.... แบบนี้แหละที่ผมกลัว.... -___-"
    ไอ้ของที่อยู่ในซองนั่นมันรูปของผมทั้งนั้น มีตั้งหลายอิริยาบทแน่ะ ทั้งนั่ง ยืน เดิน หาว หรือฟุบหลับ ...ดูๆไปก็น่ารักดีเหมือนกันแฮะเรา....
    >[]< ....ฮ้ายยยย....ไม่ใช่เวลาจะมาชื่นชมตัวเองซักหน่อย
    คุณนายหมายความว่าไงเหรอครับ  ผมเงยหน้าขึ้นไปถามคุณนายที่เริ่มจะดูหมดสภาพเข้าไปทุกที.... ก็นะ...ทั้งน้ำมูก น้ำตา มาสคาร่า อายไลน์เนอร์ มันไหลเยิ้มเลอะไปทั้งหน้าจนผมไม่แน่ใจว่าส่งทิชชู่ให้ทั้งกล่องจะพอเช็ดรึเปล่า....
    ก็...หมายความว่า....ฉันจะไม่ยอมให้สามีฉันแอบส่องเธออีกแล้วน่ะสิ!!! บริษัทไม่ขอรับเธอเข้าทำงาน.... ฮึก...ฮึก.... ใครจะทนเห็นสามีตัวเองนั่งจ้องเด็กผู้ชาย ทำตาหวานเยิ้มทั้งวี่ทั้งวันได้กัน...ฮึก... แต่...ฮึก....ฉันก็มีมนุษยธรรมพอนะ...เอ้านี่... คุณนายสูดลมหายใจสะดุดเพราะแรงสะอื้นแล้วยื่นซองสีขาวให้ ผมก็รับมาเปิดดูด้วยความกระอักกระอ่วนใจ
    ...เช็คเงินสด 3 ล้านวอน!!!!!..... O0o* 
    น่ะ....นี่มัน... ใจหนึ่งก็ดีใจอยู่หรอกครับที่จะมีเงินก้อนกับเค้ามั่ง .... แต่มันคืออะไรอ่ะ??
    นี่น่ะเป็นเงินเดือนชดเชยที่เธอโดนไล่ออก กับใบรับรองการทำงาน....ฮึก... เผื่อเธอจะไปหางานใหม่ทำ..ฮึก... นี่น่ะ ..เป็นเพราะฉันมีคุณธรรมกับเธอนะยะ!!!... สำนึกบุญคุณไว้ซะด้วย นี่ถ้าฉันไม่รู้สันดานไอ้ผัวบ้า ฉันอาจจะจ้างคนมากรีดหน้าสวยๆของเธอไปแล้วก็ได้......... ไอ้ผัวเจ้าชู้ กับเด็กผู้ชายก็ไม่ละเว้น.. คิดแล้วมัน แค้น แค้น แค้น แค้น แค้น แค้น.......... ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอแล้ว..ไป ไป ไป๊!!!!!
    โอ้....ออกอาการขนาดนี้ ถึงคุณนายไม่ออกปากไล่ผมก็คงไม่อยู่แล้วเหมือนกันแหละครับ -__-
    ผมรีบโค้งคำนับ เก็บทั้งไอ้ซองสีน้ำตาลที่มีรูปเจ้าปัญหากับซองเช็คและใบรับรองการทำงานมา กอดแนบอกได้ ก็แทบจะถลาออกนอกห้องทำงานนั้นแล้วปิดประตูอย่างแน่นหนาทันที กลัวคุณนายแกจะเปลี่ยนใจตามออกมาเชือดผมซะก่อน ... เฮ่ออ.... =,=
    จองซูเป็นไงบ้าง... พี่ชินเอคนดีที่คงจะแอบฟังอยู่หน้าประตูมาตลอดถามผมด้วยน้ำเสียงห่วงใย ผมยิ้มให้ด้วยความรู้สึกซึ้งในน้ำใจอันน้อยนิดของพี่สาวคนนี้ อย่างน้อยตลอดเวลา 6 เดือนที่อยู่ที่นี่ เธอก็คอยคุยเป็นเพื่อนคลายเหงาให้ผมได้หละนะ....  
    ขอบคุณมากนะครับพี่ชินเอ... ชีวิตพนักงานขายของผมที่นี่คงจบลงแค่วินาทีนี้แล้วหละครับ  ขอบคุณนะครับที่ช่วยดูแลมาตลอด ผมค้อมหัวให้พี่สาวใจดี เธอตบไหล่ให้กำลังใจผมเบาๆ  
    ประวัติศาสตร์ไม่น่าซ้ำรอยเลยน้า..... เธอนี่มันโชคร้ายจริงๆ จองซู เธอยิ้มบางให้ ผมถอนใจแล้วหัวเราะให้กับชะตากรรม
    ช่างมันเถอะครับ.... ผมก็นึกกลัวอยู่แต่แรกแล้วว่าประวัติศาสตร์มันอาจจะซ้ำรอยอีก ขอบคุณนะครับ... ลาก่อนนะครับพี่ ผมค้อมตัวให้เธออีกครั้ง สาวๆคนอื่นในออฟฟิศต่างก็พากันกรูเข้ามาอวยพร และกล่าวคำลากับผม ... คงจะเสียดายที่จะไม่ได้ใช้สายตาแทะเล็มหนุ่มหล่อลากไส้อย่างผมทุกวันอีกล่ะสิ  
    ...ผมจะคิดถึงทุกคนเช่นกันครับ.... ผมพูดแบบนี้อีกครั้ง ...พูดมันเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 1 ปี
    สถานการณ์ที่พี่ชินเอเรียกว่า ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย นั่นแหละครับ.....
    ผมโดนไล่ออกเพราะรูปร่างหน้าตาเป็นเหตุ...อีกแล้ว.....
    แล้วผมทำอะไรผิดล่ะเนี่ย......ผมก็แค่มีใบหน้าได้รูป แก้มขาวใสได้รอยตำหนิ ดวงตากลมสดใส จมูกรั้นนิดๆ ริมฝีปากบางเปล่งปลั่งสีสด ผิวขาวเนียน เอวคอดจนแทบจะหากางเกงไซส์ผู้ชายใส่ไม่ได้ ....ผมผิดรึไง!!!!! ตกงาน 3 ครั้งใน 1 ปี ไม่คิดว่ามันมากไปสำหรับชีวิตผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเหรอ!!! สวรรค์ช่างไม่เมตตา..... TT__TT
    ครั้งแรกที่ผมถูกเชิญออกจากงาน...ผมรับไม่ได้ พยายามต่อสู้จนได้โอกาสกลับเข้าทำงานอีกครั้ง แต่กลับกลายเป็นว่าผู้จัดการบ้าลามกดันคิดเป็นตุเป็นตะว่าผมมีใจให้ถึงได้พยายามจะกลับไป .... ผมก็เลยต้องลาออก
    ครั้งที่สอง.... เพื่อนผู้ชาย 2 คน ที่เข้างานพร้อมกับผมทะเลาะกันเพราะผมสนิทกับอีกคนมากกว่า.... ใครๆก็พากันนินทา พูดกันไปทั่วว่าเพราะผมเป็นสาเหตุให้ทั้งคู่ตีกันหัวร้างข้างแตกต่อหน้าลูกค้า.... ผู้จัดการเลยให้ทั้งคู่พิจารณาตัวเอง... แต่ผมว่าถ้าผมเป็นสาเหตุที่ทำให้เพื่อนตกงาน 2 คน สู้ผมตกงานคนเดียวดีกว่า อีกอย่างผมก็ไม่อยากเห็นเพื่อนต้องมาทะเลาะกันด้วย ลงแบบนั้น ผมก็เลยตัดสินใจลาออกซะเอง
    มาครั้งนี้..... ฝึกงานมาได้จนเกือบครบระยะเวลาทดลองงานแล้วเชียว เมีย...เอ๊ย....คุณนายท่านประธานมารู้ว่าสามีแอบส่องผมจากห้องทำงาน แถมแอบถ่ายรูปผมไว้เป็นที่ระทึกขวัญ (ของผม) อีก ...... ผมเลยถูกเชิญให้ออก
     ..... นี่มันอะไรก๊านนนนน!!!!!.................

    ชีวิตผมทำไมมันเป็นแบบนี้เนี่ย... จะมีคนมาชอบทั้งทีก็ดันเป็นผู้ชายเกือบทั้งนั้น...สมัยเด็กๆ เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่ก็ถูกทิ้งเพราะเวลาไปไหนมาไหนด้วยกันมักจะมีผู้ชายเข้ามาจีบผมมากกว่าจีบแฟนผมอ่ะ.... แล้วผมผิดตรงไหนเนี่ย!!!???
    โฮ่วว.... คิดจะทำงานหาเลี้ยงชีพโดยสุจริตทั้งที ก็ดันมีแต่เรื่อง.... ถ้าลุกขึ้นมาทำตัวชั่วๆ ไปหลอกเศรษฐีนีแก่ๆ แต่งงานแล้วฮุบสมบัติดูจะเป็นไปได้มากกว่า...โว้ยยยยย!!!
    '.......'
    หือ!!!
    อืมมมมม.....
    หรือจะดี.....?
    ...........................................................................



    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น